การเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพนั้นย่อมทำให้ร่างกายแข็งแรงนะครับ แต่หลายคนก็ยังมีความเข้าใจที่ว่าการเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์เฉพาะอย่างก็ทำให้ร่างกายแข็งแรงเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเลือกทานแต่ผักและผลไม้เป็นหลัก ซึ่งการทานผักผลไม้ให้ประโยชน์อย่างมากก็จริงครับ แต่การทานอาหารให้ครบถ้วนทั้ง 5 หมู่ก็ยังคงมีความสำคัญ เพราะสารอาหารบางชนิดมีเฉพาะในเนื้อสัตว์เท่านั้น บทความนี้ Urban Farming จะมาแชร์ว่ามีสารอาหารอะไรบ้าง ที่เราไม่สามารถหาได้ในผัก และควรทานอาหารอย่างอื่นเพิ่มเติม
Creatine
ครีเอทีน (Creatine) คือโปรตีนชนิดหนึ่งครับ เป็นสารเคมีที่ประกอบขึ้นจากกรดอะมิโน 3 ตัว คือ เมทไธโอนีน ไกลซีน และอาร์จีนีน
ครีเอทีนมีความสำคัญต่อร่างกายของเรา เพราะมันช่วยสร้างพลังงานที่จำเป็นต่อกล้ามเนื้อ สมอง และการทำงานของไต ดังนั้น เราจึงควรทานอาหารที่ให้ครีเอทีนกับร่างกายครับ ครีเอทีนไม่พบในผักและผลไม้ทุกชนิด แต่สามารถพบได้ใน นม เนื้อแดง และปลา
Vitamin D3
วิตามินดี เป็นวิตามินที่มีความสำคัญต่อร่างกายอย่างมากครับ มีบทบาทที่สำคัญต่อการแบ่งตัวของเซลล์ให้เป็นไปอย่างปกติ ช่วยบำรุงสุขภาพกระดูกและฟัน มีส่วนช่วยในการดูดซึมและใช้ประโยชน์ของแคลเซียมและฟอสฟอรัส และช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานปกติ
วิตามินดีมีหลายชนิด แต่ชนิดที่มีความสำคัญมากที่สุดคือ วิตามินดี 2 (เออร์โกแคลซิเฟอรอล) และวิตามินดี3 (คอเลแคลซิเฟอรอล) ซึ่งวิตามินดี 3 นั้น นอกจากร่างกายจะสังเคราะห์ได้เองเมื่อสัมผัสกับรังสียูวีหรือแสงแดดในปริมาณที่เพียงพอ (ซึ่งเป็นไปได้ยาก) ก็สามารถได้จากการทานอาหาร ซึ่งวิตามินดีพบได้น้อยมากในอาหารประเภทพืช พบเล็กน้อยในนม แต่พบในปริมาณที่สูงที่สุดในอาหารที่ได้จากสัตว์ เช่น ปลาที่มีไขมันสูง ตับ ไข่ และ เนย
Vitamin B12
วิตามินบี 12 เป็นวิตามินละลายในน้ำซึ่งมีบทบาทสำคัญในการสร้างเม็ดเลือดแดง การทำงานของสมองและเซลล์ประสาท รวมถึงการสร้างสารพันธุกรรม วิตามินบี 12 นั้นไม่พบในพืชผัก แต่พบได้มากในอาหารประเภทเนื้อสัตว์ ได้แก่ เนื้อแดง ปลา สัตว์ปีก และผลิตภัณฑ์จากนม
ผู้ที่ไม่รับประทานเนื้อสัตว์มักมีแนวโน้มที่จะขาดวิตามินบี 12 ซึ่งหากประสบภาวะขาดวิตามินบี 12 อย่างต่อเนื่อง อาจเกิดภาวะโลหิตจาง ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ ลิ้นอักเสบ อ่อนล้า ใจสั่น กล้ามเนื้ออ่อนแรง ระบบย่อยอาหารผิดปกติได้ครับ
DHA
DHA หรือ กรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิก (Docosahexaenoic acid) คือกรดไขมันจำเป็นในตระกูลกรดไขมันโอเมกา-3 มีส่วนสำคัญต่อการทำงานของระบบสมอง ตับ และระบบประสาทเกี่ยวกับการพัฒนาเรียนรู้ การมองเห็น
นอกจากนี้ DHA ยังมีส่วนสำคัญต่อสุขภาพของคนเราหลายอย่าง เช่น ช่วยควบคุมระดับไลโปโปรตีน (lipoprotien) และมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบและหน้าที่ของเกล็ดเลือด ช่วยลดระดับโคเลสเตอรอล และไตรเอธิลกลีเซอรอล (Triethylglycerol) ในพลาสมา ทั้งนี้ DHA กรดไขมันโอเมก้า 3 เป็นกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกายแต่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ จำเป็นต้องได้รับจากการรับประทานอาหาร ซึ่งพบได้ในนมแม่ ปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาแมคเคอเรล ปลาทูน่า ปลาแซลมอน และพบได้บ้างในเนื้อสัตว์ชนิดอื่น ๆ รวมถึงไข่ไก่ครับ
Taurine
ชื่อไม่คุ้นเลยใช่ไหมครับ ทอรีน (Taurine) เป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่ง จัดอยู่ในกลุ่มกรดอะมิโนไม่จำเป็น เพราะร่างกายสามารถสร้างเองได้ ทอรีนมีบทบาทสำคัญในการเป็นส่วนประกอบของเนื้อเยื่อหัวใจ กล้ามเนื้อลาย และระบบประสาทส่วนกลาง นอกจากนี้ทอรีนยังเป็นส่วนประกอบของน้ำดีอีกด้วยครับ
แม้ว่าทอรีนจะเป็นกรดอะมิโนที่ร่างกายสร้างเองได้ แต่เมื่ออายุมากขึ้นร่างกายก็สร้างได้ลดน้อยลง หรือการขาดวิตามินบี 6 ก็ทำให้ร่างกายสังเคราะห์ทอรีนไม่ได้ ดังนั้นเมื่อร่างกายขาดทอรีนก็จะทำให้เรารู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย เราจึงจำเป็นต้องทานอาหารที่มีสารอาหารทอรีน
ทอรีนพบได้ในอาหารประเภทเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะพวกหอยชนิดต่าง ๆ อาหารทะเล ปลาทะเล รวมไปถึงบรรดาสาหร่ายทะเล สาหร่ายแดง รองลงมาก็จะพบในเนื้อหมู เนื้อวัว สัตว์ปีก และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม แต่จะไม่ค่อยพบทอรีนในอาหารประเภทพืชผักครับ
L-carnosine
คาร์โนซีนคือไดเปปไทด์ของกรดอะมิโนที่ประกอบด้วย เบต้าอะลานีน และฮิสทิดีน พบมากในกล้ามเนื้อ เนื้อเยื่อสมอง และกล้ามเนื้อหัวใจ คาร์โนซีนจัดอยู่ในกลุ่มกรดอะมิโนไม่จำเป็น เพราะร่างกายสามารถสร้างเองได้เช่นเดียวกับทอรีนครับ แต่เมื่ออายุเพิ่มขึ้นคาร์โนซีนที่ร่างกายผลิตจะลดลง การเสริมด้วยอาหารจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นสำหรับร่างกาย
คุณประโยชน์ของคาร์โนซีนต่อร่างกายก็คือช่วยป้องกันริ้วรอย ป้องกันหรือรักษาภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวาน ช่วยรักษาความเสียหายของเส้นประสาท ความผิดปกติของดวงตาและปัญหาเกี่ยวกับไต ช่วยรักษาสมดุลการทำงานที่เหมาะสมและการพัฒนาของกล้ามเนื้อ หัวใจ ตับ ไต สมองและอวัยวะอื่น ๆ อีกมากมาย คาร์โนซีนพบได้ในอาหารประเภทเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อหมู เนื้อโค เนื้อสัตว์ปีก เป็นต้น
สรุป
ร่างกายของเราต้องการสารอาหารที่หลากหลายสำหรับการทำงานที่สมบูรณ์ ถึงแม้ว่าเมนูจากผักและผลไม้จะเป็นเมนูพื้นฐานสำคัญที่มีส่วนในการดูแลสุขภาพ แต่การทานอาหารให้ครบหมวดหมู่และทานในปริมาณที่พอดีก็ยังมีความสำคัญอยู่มาก
เพื่อสุขภาพที่ดีของเรา ทานผักผลไม้แล้ว อย่าลืมทานอาหารชนิดอื่น ๆ ร่วมด้วยอย่างเพียงพอนะครับ “You are what you eat” กินอาหารอย่างไร สุขภาพของเราก็เป็นเช่นนั้นครับ